"ของขวัญ มานี่เร็ว" ผมเรียกสาวน้อยวัย 6 ขวบที่กำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ เธอเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มและกางแขนขึ้นเพื่อให้ผมอุ้มเธอ
"มะม๊า" นั่นคือสรรพนามที่ของขวัญใช้เรียกผมตั้งแต่วันแรกที่ผมได้พบกับเธอ เมื่อสามปีก่อน....
คืนนั้นก่อนผมจะเดินเข้าบ้าน มีชายต่างชาติคนนึ่งที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดท่วมตัว เค้าวิ่งหน้าตาตื่นพร้อมกับยัดเด็กวัยสามขวบใส่ในอ้อมแขนของผม พร้อมกับคำพูดในภาษาอิตาลีว่า "ฝากลูกผมด้วย" ไม่รู้เพราะโชคดีของผมหรือเปล่าที่ดันฟังรู้เรื่อง แหงละผมเป็นล่ามในสายนี้นี่น่า
"คุณบาดเจ็บมากเลยนะ.." เอ้ยลืม!! พูดภาษาไทยเค้าจะรู้เรื่องเรื่องมั้ยเนี่ย
"ผมไม่เป็นไร ฝากไอรีสด้วย" เหะ! พูดไทยได้ด้วย ถึงจะไม่ค่อยชัดก็เถอะ เค้าพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นและพรมจูบลูกน้อยพร้อมกับตา ก่อนจะวิ่งหนีออกไป แม้ลูกของเค้าจะส่งเสียงร้องเพื่อรั้งเค้าไว้ก็ตาม อะไรของเค้านะ ทำไมถึงได้ทิ้งลูกของตัวเองไว้กับคนอื่นได้ง่ายขนาดนี้ ลูกในไส้แท้ๆเลยนะ
ผมอุ้มปลอบเธอสักพักก่อนจะพาเข้าบ้าน พร้อมกับทำความสะอาดคาบเลือดที่ติดมากับตัวเด็กนิดหน่อย หลังทำความสะอาดเสร็จผมจึงพาเธอมานั่งที่โซฟา
"มะม๊า" เธอเรียกผมเสียงแผ่ว อาจจะเป็นเพราะผมนั้นไว้ผมยาวปะบ่า เธอจึงเข้าใจผิดว่าผมเป็นผู้หญิงนั้นไม่แปลก แต่แปลกที่เรียกมะม๊านี่แหละ!!
"เอ่อ..ครับ" แต่จะขัดก็กะไรอยู่ผมจึงเออออตามเธอไป ก็เด็กเค้าน่าสงสารอะ
"หิว" พูดไทยได้ชัดกว่าพ่อเค้าอีกแหะ อย่างกับเด็กไทยแหน่ะ
"โอเคครับ รอน้าอยู่ตรงนี้นะ" เธอพยักหน้ารับ ผมจึงเดินเข้ามาในครัว อย่าคิดว่าผมจะทำอาหารเป็นนะครับ ก็ได้แค่ต้มโจ๊กกับมาม่าเท่านั้นแหละ หลังจากโจ๊กสุกจนอุ่นได้ที่ผมจึงนำมาป้อน เธอก็กินจนหมดก่อนจะคานมานอนบนตักของผม
"ชื่อไอรีสงั้นหรอ" ผมมองเธอเเละยิ้มน้อยๆพร้อมกับลูบผมของเธอเบาๆ แล้วจะเอาไงต่อไปดีละเรา จะให้ดูแลต่อไปจริงๆผมก็ไม่ลำบากเท่าไหร่หรอก บ้านนี้ผมก็อยู่แค่คนเดียว พ่อแม่ก็เสียไปหมด มีเด็กมาวิ่งเล่นสักคนก็ไม่เป็นไรหรอก
ผมดูเเลไอรีสมาได้ปีครึ่งก็ไม่มีวี่แววของพ่อเค้าจะติดต่อกลับมาเลย หรือจะตายไปแล้วหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ สภาพในวันนั้นก็น่าจะรอดยากจริงๆ
เมื่อเวลาล่วงไปนานขึ้น ผมจึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่เป็นทนายให้ช่วยนำไอรีสเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของผม เพราะเด็กก็น่าจะได้เรียนบ้าง ปีหน้าคงเข้าอนุบาลได้แล้ว ผมจึงทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และเปลี่ยนชื่อของเธอจาก ไอรีส เป็น ของขวัญ เธอนั้นเหมือนของขวัญสำหรับผมจริงๆ ตั้งแต่มีเธอเข้ามาผมก็ไม่ค่อยเหงาที่จะอยู่บ้านคนเดียว จากวันนั้นมันก็ผ่านมาสามปีแล้ว ที่ของขวัญได้เป็นลูกของผม...
"วันนี้ของขวัญ อยากกินอะไรเอ่ย"
"อืม.. อะไรที่ไม่ใช่มะม๊าทำของขวัญก็กินหมดเยย" ผ่านมาสามปีแล้วที่ผมพยายามเรียนทำอาหาร เพื่อไม่ให้ของขวัญได้กินแต่มาม่าหรืออาหารกระป๋อง แต่ฝีมือผมก็ยังคงห่วยเหมือนเดิม ไม่ถึงกับอร่อยแต่ก็ทานได้(มั้ง)
"ของขวัญอะ ไม่ให้กำลังใจม๊าหน่อยหรอ" ว่าเสร็จลูกตัวน้อยก็เข้ามาหอมแก้มผมแรงๆ และหัวเราะคิกคัก ก่อนจะมีผูชายต่างชาติที่สูงเกือบสองเมตรเดินเข้ามาหาผม และมองไปที่ของขวัญอย่างสนใจ
"ไอรีส"
ความคิดเห็น